บันทึกการเรียนรู้ครั้งที่16
วันที่ 25 กันยายน 2555
สิ่งที่ได้รับ
-อาจารย์ให้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการใช้Tabletทั้งข้อดีและข้อจำกัด
ชั้นประถมศึกษา
ข้อดี
-เด็กพกพาได้ง่ายหาข้อมูลในการเรียนการสอนได้เร็วขึ้น ทำให้เด็กได้ใช้เทคโนโลยี ทำให้เด็กตื่นเต้น กับการเรียน
ข้อจำกัด
-เด็กอาจจะถือหรือจับใช้ได้ยากลำบาก
-เด็กไม่ได้การมีปฎิสัมพันธ์ในการพูดคุยกับครูและเพื่อน
-เด็กอาจจะไม่ดูแลและรักษาแท็ปเล็ต
ชั้นอนุบาล
ข้อดี
-เด็กได้ตื่นเต้นกับเทคโนโลยีและสื่อการเรียนการสอนที่ใหม่ๆและสื่อค้นหาข้อมูลได้รวดเร็ว
-หาสื่อภาพได้ง่ายทำให้ประหยัดในการทำสื่อสอน
ข้อจำกัด
-เด็กต้องการที่จะเล่นอย่างอิสระและได้ลงมือปฏิบัติจริง ทำให้เด็กเบื่อได้ง่าย
วิธีการทำให้เกิดเรียนรู้ในรูปแบบต่างๆ
การอธิบาย บรรยาย
การวิเคราะห์
ลงมือปฏิบัติจริง
ค้นคว้า การสรุปความคิด
การมอบหมายงาน
การแก้ปัญหา การทดลอง
ค้นคว้าเพิ่มเติม
วิดีโอ โททัศน์ครู : ของเล่นและของใช้
http://www.thaiteachers.tv/vdo2.php?id=3429
**สรุป**
การจัดประสบการณ์โดยการนำวัสดุอุปกรณ์ของเล่นของใช้ที่เป็นของจริงมาเป็นสื่อนั้นเป็นการส่งเสริมการเรียนรู้ที่มีคุณค่าที่สามารถทำให้เด็กได้เรียนรู้จากของจริงเด็กได้สัมผัสจริงได้เห็นของจริงเป็นการเปิดโอกาสให้เด็กได้สังเกตุ รู้จัก แยกแยะ เปรียบเทียบรวมทั้งทำให้เด็กได้จดจำสิ่งต่างๆเด้กจะได้จำสิ่งต่างๆนำไปใช้เชื่อมโยงกับการใช้ในชีวิตประจำวันรวมทั้งทำให้เด้กมีความสุขและสนกกับการเรียนปนเล่นและทั้งยังสามารถเอื้อต่อการส่งเสริมพัฒนาการด้านต่างๆได้เป็นอย่างดี
*งานที่มอบหมาย
ให้นักศึกษาทุกคนไปตรวจสอบและทำblogger ของตัวเองให้เรียบร้อย
โดยbloggerจะต้องมีส่วนประกอยดังนี้
- บทความเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์
-งานวิจัยเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์
-ตัวอย่างเพลงเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์
-ข้อมูลทีเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์
แฟ้มสะสมงานในรายวิชาการจัดประสบการณ์ทางวิทยาศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัย
วันเสาร์ที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2555
วันพุธที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2555
วันจันทร์ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2555
บันทึกการเรียนรู้ครั้งที่14
วันที่ 11 กันยายน 2555
กิจกรรมที่ได้รับ**ฐานระดับน้ำมีผลต่อระดับเสียง(กลุ่ม) **
วัสดุ/ อุปกรณ์
1.แก้ว
2.น้ำเปล่า
3.สีผสมอาหาร
4.ตะเกียบ
5.เหยือกน้ำ
แนวคิด
ความถี่ในการสั่นของวัตถุเกี่ยวข้องกับมวลของวัตถุด้วย วัตถุที่มีมวลน้อยจะสั่นด้วยความถี่สูงกว่าวัตถุที่มีมวลมาก
วิธีการทดลอง
นำน้ำที่เตรียมไว้มาเทลงไปในแก้ว เทน้ำให้ต่างระดับกันทั้งแปดแก้วจากนั้นใช้ตะเกียบเคาะแก้วพร้อมกับฟังเสียง แก้วแต่ล่ะใบจะมีเสียงต่างกัน เพราะระดับน้ำในแก้วไม่เท่ากันจึงทำให้เสียงที่ได้ยินต่างกัน
*งานที่มอบหมาย
- จัดกิจกรรม วัน อังคาร ที่ 18 กันยายน 2555
- เตรียมอุปกรณ์ให้พร้อม
- ทำป้ายแขวนคอเด็ก
- ใช้เวลาฐานละ 15 นาที
วันที่ 11 กันยายน 2555
กิจกรรมที่ได้รับ**ฐานระดับน้ำมีผลต่อระดับเสียง(กลุ่ม) **
วัสดุ/ อุปกรณ์
1.แก้ว
2.น้ำเปล่า
3.สีผสมอาหาร
4.ตะเกียบ
5.เหยือกน้ำ
แนวคิด
ความถี่ในการสั่นของวัตถุเกี่ยวข้องกับมวลของวัตถุด้วย วัตถุที่มีมวลน้อยจะสั่นด้วยความถี่สูงกว่าวัตถุที่มีมวลมาก
วิธีการทดลอง
นำน้ำที่เตรียมไว้มาเทลงไปในแก้ว เทน้ำให้ต่างระดับกันทั้งแปดแก้วจากนั้นใช้ตะเกียบเคาะแก้วพร้อมกับฟังเสียง แก้วแต่ล่ะใบจะมีเสียงต่างกัน เพราะระดับน้ำในแก้วไม่เท่ากันจึงทำให้เสียงที่ได้ยินต่างกัน
*งานที่มอบหมาย
- จัดกิจกรรม วัน อังคาร ที่ 18 กันยายน 2555
- เตรียมอุปกรณ์ให้พร้อม
- ทำป้ายแขวนคอเด็ก
- ใช้เวลาฐานละ 15 นาที
วันพุธที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2555
บันทึกการเรียนรู้ครั้งที่13
วันที่ 4 กันยายน 2555
สิ่งที่ได้รับ
- อาจารย์ แนะนำเทคนิควิธีในการจัดป้ายนิเทศ การจัดทำบอร์ดดอกไม้ ที่นักศึกษานำมาส่งแต่ละกลุ่ม และร่วมกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการจัดป้ายนิเทศ
- การวางแผนในการจัดป้ายนิเทศ การจัดไล่ดอก การจัดช่อดอกไม้ ต้องวางใบก่อนวางดอกไม้
- การวางใบ การจัดเข้ามุม
- ดอกไม้ต้องมี ใบเลี้ยง ใบรอง จะได้ดูเป็นธรรมชาติ
- การนำสิ่งที่เราได้เรียนรู้และอบรมนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์
- การจัดต้องมีความทนทาน มีความแข็งแรง
- ในการจัด มีท้ง ดอกไม้ ขนาด ใหญ่ กลาง เล็ก จะทำให้ดูเป็นศิลปะมากขึ้น
*งานที่มอบหมาย
-จัดกลุ่ม4คน ได้หัวข้อ ระดับน้ำมีผลต่อระดับเสียง
1.ตั้งชื่่อกิจกรรม อุปกรณ์
2.แนวคิด วิธีการดำเนินงาน
3.ป้ายชื่อให้เด็ก
วันที่ 4 กันยายน 2555
สิ่งที่ได้รับ
- อาจารย์ แนะนำเทคนิควิธีในการจัดป้ายนิเทศ การจัดทำบอร์ดดอกไม้ ที่นักศึกษานำมาส่งแต่ละกลุ่ม และร่วมกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการจัดป้ายนิเทศ
- การวางแผนในการจัดป้ายนิเทศ การจัดไล่ดอก การจัดช่อดอกไม้ ต้องวางใบก่อนวางดอกไม้
- การวางใบ การจัดเข้ามุม
- ดอกไม้ต้องมี ใบเลี้ยง ใบรอง จะได้ดูเป็นธรรมชาติ
- การนำสิ่งที่เราได้เรียนรู้และอบรมนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์
- การจัดต้องมีความทนทาน มีความแข็งแรง
- ในการจัด มีท้ง ดอกไม้ ขนาด ใหญ่ กลาง เล็ก จะทำให้ดูเป็นศิลปะมากขึ้น
*ส่งงานงานที่มอบหมาย
-ส่งสมุดเล่มเล็ก
-บอร์ด
- ส่งการทดลองวิทยาศาสตร์*งานที่มอบหมาย
-จัดกลุ่ม4คน ได้หัวข้อ ระดับน้ำมีผลต่อระดับเสียง
1.ตั้งชื่่อกิจกรรม อุปกรณ์
2.แนวคิด วิธีการดำเนินงาน
3.ป้ายชื่อให้เด็ก
ส่งบอร์ด ผลงานบอร์ด |
วันพุธที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2555
บันทึกการเรียนรู้ครั้งที่7
วันที่ 24 กรกฎาคม 2555
สิ่งที่ได้รับ
สถานที่ > ไบเทค
> ท้องฟ้าจำลอง
>พิพิทธภัณฑ์ > วิทยาศาสตร์
> หุ่นขี้ผึ้ง
> เด็ก
> สัตว์น้ำ
> โอเชียล
> สัตว์น้ำบางแสน
> บึงฉวาก
ประโยชน์ > ประสบการณ์ตรง
> เกิดความสนุกสนาน
> เพลิดเพลิน
> ตื่นเต้น
> มีสาระ
> ได้ความรู้
> เกิดควมสงสัย
> คำถาม
> อยากรู้
ช้าง > การขยายพันธ์
> ลักษณะ
> ที่อยู่
> อาหาร
> ประโยชน์
> ข้อควรระวัง
> อาชีพ
> การขยายพันธ์
1 . > ดึงประสบการณ์เดิมของเด็ก
ดึงประสบการณ์เดิมของเด็ก
จินตนาการ ประสบการณ์
การเชื่อมโยง
งานวาดรูปศิลปะ
2 . > เด็กๆอยากรู้เรื่องอะไรที่เกี่ยวกับช้าง
- ช้างเกิดมาจากไหน
- ทำไมช้างตัวใหญ่
- ช้างนอนตอนไหน
- ช้างร้องอย่างไร
- ช้างสืบพันธ์อย่างไร
- ช้างกินอะไรเป็นอาหาร
- อาจารย์ อธิบายเกี่ยวกับการเขียนแผน
- ร่วมกันอภิปรายแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในการจัดประสบการณ์ให้กับเด็กแต่ละวัย
** งานที่มอบหมาย
- เขียนแผนแบบการสอน
วันที่ 24 กรกฎาคม 2555
สิ่งที่ได้รับ
สถานที่ > ไบเทค
> ท้องฟ้าจำลอง
>พิพิทธภัณฑ์ > วิทยาศาสตร์
> หุ่นขี้ผึ้ง
> เด็ก
> สัตว์น้ำ
> โอเชียล
> สัตว์น้ำบางแสน
> บึงฉวาก
ประโยชน์ > ประสบการณ์ตรง
> เกิดความสนุกสนาน
> เพลิดเพลิน
> ตื่นเต้น
> มีสาระ
> ได้ความรู้
> เกิดควมสงสัย
> คำถาม
> อยากรู้
ช้าง > การขยายพันธ์
> ลักษณะ
> ที่อยู่
> อาหาร
> ประโยชน์
> ข้อควรระวัง
> อาชีพ
> การขยายพันธ์
1 . > ดึงประสบการณ์เดิมของเด็ก
ดึงประสบการณ์เดิมของเด็ก
จินตนาการ ประสบการณ์
การเชื่อมโยง
งานวาดรูปศิลปะ
2 . > เด็กๆอยากรู้เรื่องอะไรที่เกี่ยวกับช้าง
- ช้างเกิดมาจากไหน
- ทำไมช้างตัวใหญ่
- ช้างนอนตอนไหน
- ช้างร้องอย่างไร
- ช้างสืบพันธ์อย่างไร
- ช้างกินอะไรเป็นอาหาร
- อาจารย์ อธิบายเกี่ยวกับการเขียนแผน
- ร่วมกันอภิปรายแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในการจัดประสบการณ์ให้กับเด็กแต่ละวัย
** งานที่มอบหมาย
- เขียนแผนแบบการสอน
วันที่ 17 กรกฎาคม 2555
สิ่งที่ได้รับ
การเล่น
- การเรียนรู้ของเด็กเกิดจากการเล่น การเล่นทำให้เด็กเกิดประสบการณ์
- เด็กได้ลองผิดลองถูก เด็กเล่นก็จะเกิดทักษะ
- เด็กได้ใช้ประสาทสัมผัสทั้ง5
- เครื่องมือที่มำให้เด็กเกิดการเรียนรู้
- การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมคือการเรียนรู้
- เปิดโอกาสให้เด็กมีประสบการณ์การเล่นของเล่นวิทยาศาสตร์
-ให้เด็กเกิดการเรียนรู้
-เด็กได้ใช้ประสาทสัมผัสทั้ง5
-การเล่นเป็นเครื่องมือในการทำให้เด็กได้เกิดการเรียนรู้
-การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม คือ การเกิดการเรียนรู้
*งานมอบหมาย
เป็นงานกลุ่มทำเป็น Map ใส่กระดาษที่อาจารย์แจกมา หัวข้อ วิทยาศาสตร์น่ารู้
บันทึกการเรียนรู้ครั้งที่5
วันที่ 10 กรกฎาคม 2555
สื่่อวิทยาศาสตร์ที่ประดิษฐ์
1 ลวดมหัศจรรย์
อุปกรณ์
- ลวด
- ไม้
-ไหมพรม
- กาว
- ลูกปัด
วิธีทำ
- นำไม้มาติดกาวเข้าด้วยกันเปนรูปสี่เหลี่ยมมุมฉาก
- นำลูกปัดมาใส่ในลวดจากนั้นนำลวดไปมัดกับไม้ให้แน่นและแข็งแรง
- นำไหมพรมมาพันติดกับไม้ให้หมดเพื่อความสวยงามและคงทน
วิธีการเล่น
- นำไม้สลับกลับหัวไปมาเพื่อให้ลูกปัดในลวดได้วิ่งจากบนลงล่างในลวดที่ต่างกันระหว่างเส้น ตรงและเส้นโค้งเพื่อให้เด็กสังเกตการเคลื่อนที่ของลูกปัด
2 บูมเมอแรง
อุปกรณ์
- กระดาษแข็ง
- กรรไกร
- เทปกาว
- สีเมจิก
วิธีทำ
-นำกระดาษมาตัดให้เป็นสี่เหลี่ยมจากนั้นนำมาติดกันด้วยเทปกาวให้มีลักษณะคล้ายกลางหัน
- นำเทปกาวมาติดให้แน่นและแข็งแรง
- ตกแต่งด้วยสีเมจิกเพื่อความสวยงามตามใจชอบ
วิธีการเล่น
- นำบูมเมอแรงไว้ระหว่างมือจากนั้นใช้นิ้วมือปัดออกไปสังเกตการเคลื่อที่ของบูมเมอแรง
** นำเสนองานกลุ่ม(ของเล่นวิทยาศาสตร์)
- ลวดมหัศจรรย์
- บูมเมอแรง
วันที่ 10 กรกฎาคม 2555
สื่่อวิทยาศาสตร์ที่ประดิษฐ์
1 ลวดมหัศจรรย์
อุปกรณ์
- ลวด
- ไม้
-ไหมพรม
- กาว
- ลูกปัด
วิธีทำ
- นำไม้มาติดกาวเข้าด้วยกันเปนรูปสี่เหลี่ยมมุมฉาก
- นำลูกปัดมาใส่ในลวดจากนั้นนำลวดไปมัดกับไม้ให้แน่นและแข็งแรง
- นำไหมพรมมาพันติดกับไม้ให้หมดเพื่อความสวยงามและคงทน
วิธีการเล่น
- นำไม้สลับกลับหัวไปมาเพื่อให้ลูกปัดในลวดได้วิ่งจากบนลงล่างในลวดที่ต่างกันระหว่างเส้น ตรงและเส้นโค้งเพื่อให้เด็กสังเกตการเคลื่อนที่ของลูกปัด
2 บูมเมอแรง
อุปกรณ์
- กระดาษแข็ง
- กรรไกร
- เทปกาว
- สีเมจิก
วิธีทำ
-นำกระดาษมาตัดให้เป็นสี่เหลี่ยมจากนั้นนำมาติดกันด้วยเทปกาวให้มีลักษณะคล้ายกลางหัน
- นำเทปกาวมาติดให้แน่นและแข็งแรง
- ตกแต่งด้วยสีเมจิกเพื่อความสวยงามตามใจชอบ
วิธีการเล่น
- นำบูมเมอแรงไว้ระหว่างมือจากนั้นใช้นิ้วมือปัดออกไปสังเกตการเคลื่อที่ของบูมเมอแรง
** นำเสนองานกลุ่ม(ของเล่นวิทยาศาสตร์)
- ลวดมหัศจรรย์
- บูมเมอแรง
บันทึกการเรียนรู้ครั้งที่4
วันที่ 3 กรกฎาคม 2555
สิ่งที่ได้รับคือ
ดูวีดีโอเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์แสนสนุกสำหรับเด็ก
** ฝนเกิดจากอะไร
ฝนตกเกิดจาก น้ำโดนความร้อนของแสงจากดวงอาทิตย์หรือความร้อนอื่นใดที่ใช้ในการต้มน้ำ จนทำให้ระเหยกลายเป็นไอน้ำ ลอยขึ้นไปในอากาศ เมื่อไอน้ำมากขึ้นจะรวมตัวกันเป็นละอองน้ำเล็กๆ ปริมาณของละอองน้ำยิ่งมากขึ้นเรื่อยๆก็จะรวมตัวกันเป็นเมฆฝน พอมากเข้าอากาศไม่สามารถพยุงละอองน้ำเหล่านี้ต่อไปได้ น้ำก็จะหล่นลงมายังผืนโลกให้เราเรียกขานกันว่าฝนตก
** งานที่มอบหมาย
1. เมื่อได้หน่วยการเรียนรู้จากโรงเรียนอนุบาลสาธิตจันทรเกษม แล้วให้ทำเป็น
Mind Map ว่าเราจะสอนอะไร สิ่งที่จะต้องมีคือ ภาพ การทดลอง
และยกตัวอย่าง (งานกลุ่ม)
2. ทำสื่อวิทยาศาสตร์ที่เด้กสามารถเล่นเองได้ในมุมประสบการณ์ (จับคู่ 2 คน)
- อุปกรณ์จะต้องเป็นเศษวัสดุเหลือใช้
- ถ่ายรูปเป็นขั้นตอน
3. หาวิธีการทำของเล่นวิทยาศาสตร์มา 1 อย่าง เพื่อที่จะนำมาสอนเด็ก (จับคู่ 2 คน)
วันที่ 3 กรกฎาคม 2555
สิ่งที่ได้รับคือ
ดูวีดีโอเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์แสนสนุกสำหรับเด็ก
** ฝนเกิดจากอะไร
ฝนตกเกิดจาก น้ำโดนความร้อนของแสงจากดวงอาทิตย์หรือความร้อนอื่นใดที่ใช้ในการต้มน้ำ จนทำให้ระเหยกลายเป็นไอน้ำ ลอยขึ้นไปในอากาศ เมื่อไอน้ำมากขึ้นจะรวมตัวกันเป็นละอองน้ำเล็กๆ ปริมาณของละอองน้ำยิ่งมากขึ้นเรื่อยๆก็จะรวมตัวกันเป็นเมฆฝน พอมากเข้าอากาศไม่สามารถพยุงละอองน้ำเหล่านี้ต่อไปได้ น้ำก็จะหล่นลงมายังผืนโลกให้เราเรียกขานกันว่าฝนตก
- ** การระเหย
- คือกระบวนการการเปลี่ยนแปลงสถานะของสสาร จากของเหลว กลายเป็นก๊าซ โดยมักเกิดเมื่อของเหลวนั้นๆได้รับพลังงานหรือความร้อน ได้แก่ น้ำ เปลี่ยนสถานะเป็น ไอน้ำ
- ** การระเหิด
คือกระบวนการการเปลี่ยนแปลงสถานะของสสาร จากของแข็ง กลายเป็นก๊าซ โดยไม่ผ่านสถานะการเป็นของเหลว ได้แก่น้ำแข็งแห้ง เปลี่ยนสถานะเป็น ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
- ** การควบแน่น
คือกระบวนการการเปลี่ยนแปลงสถานะของสสาร จากก๊าซ กลายเป็นของเหลว โดยมักเกิดเมื่อก๊าซนั้นๆ สูญเสียความร้อนหรือพลังงาน ได้แก่ ไอน้ำ เปลี่ยนแปลงสถานะเป็น น้ำ
** การแข็งตัว
คือกระบวนการการเปลี่ยนแปลงสถานะของสสาร จากของเหลว กลายเป็นของแข็ง โดยมักเกิดเมื่อของเหลวนั้นๆ สูญเสียความร้อนหรือพลังงาน ได้แก่ น้ำ เปลี่ยนแปลงสถานะเป็น น้ำแข็ง โดยของแข็งนั้น สามารถเปลี่ยนสถานะกลับเป็นของเหลวได้ โดยการได้รับพลังงานหรือความร้อน
** การตกผลึก
คือกระบวนการการเปลี่ยนแปลงสถานะของสสาร จากของเหลว กลายเป็นของแข็ง โดยมักเกิดเมื่อของเหลวนั้นๆ สูญเสียความร้อนหรือพลังงาน ได้แก่ น้ำ เปลี่ยนแปลงสถานะเป็น น้ำแข็ง แต่โดยทั่วไปแล้ว ตกผลึกนั้นนิยมใช้ กับการเปลี่ยนแปลงรูปร่างทางทางเคมี เสียมากกว่า เพราะโดยทั่วไปใช้กับสารประกอบหรือวัตถุ ที่ไม่สามารถหลอมเหลว หรือ ละลาย กลับเป็นของเหลวได้อีก
** การหลอมเหลว หรือการละลาย
คือกระบวนการการเปลี่ยนแปลงสถานะของสสาร จากของแข็ง กลายเป็นของเหลว โดยมักเกิดเมื่อของแข็งนั้นๆ ได้รับความร้อนหรือพลังงาน ได้แก่ น้ำแข็ง เปลี่ยนแปลงสถานะเป็น น้ำ
** งานที่มอบหมาย
1. เมื่อได้หน่วยการเรียนรู้จากโรงเรียนอนุบาลสาธิตจันทรเกษม แล้วให้ทำเป็น
Mind Map ว่าเราจะสอนอะไร สิ่งที่จะต้องมีคือ ภาพ การทดลอง
และยกตัวอย่าง (งานกลุ่ม)
2. ทำสื่อวิทยาศาสตร์ที่เด้กสามารถเล่นเองได้ในมุมประสบการณ์ (จับคู่ 2 คน)
- อุปกรณ์จะต้องเป็นเศษวัสดุเหลือใช้
- ถ่ายรูปเป็นขั้นตอน
3. หาวิธีการทำของเล่นวิทยาศาสตร์มา 1 อย่าง เพื่อที่จะนำมาสอนเด็ก (จับคู่ 2 คน)
บันทึกการเรียนรู้ครั้งที่3
วันที่ 26 มิถุนายน 2555
สิ่งที่ได้รับคือ
จัดประสบการณ์ทางวิทยาศาสตร์
-อาจารย์ยกตัวอย่างแมวเหมียวให้ฟัง(เด็กเกิดการเรียนรู้)
1.พัฒนาการทางสติปัญญา
2.กระบวนการทางวิทยาศาสตร์
2.1 กระบวนการพื้นฐานเบื้องต้น
-สังเกต(สอดคล้องกับวิธีการเรียนรู้ของเด็ก)
-การวัด (เรื่องปริมาณ)
-การจำแนกประเภท
-การหาความสัมพันธ์มิติกับเวลา
-การสื่อความหมาย
-การคำนวนพยากรณ์
2.2กระบวนการแบบผสม
-ตั้งสมมติฐาน
-กำหนดเชิงปฏิบัติการณ์
-กำหนดและควบคุมตัวแปร
-ทดลอง
-ตีความและสรุป
3.การใช้สื่อ
-เลือกให้เหมาะสม
-เตรียมสื่อ
-ใช้
-ประเมิน
4.วิธีการจัด
1.แบบเป็นทางการ
-รูปแบบการสอนแบบต่างๆเช่น โครงงานวิทยาศาสตร์
-มีจุดมุ่งหมาย
2.แบบไม่เป็นทางการ
-มุมวิทยาศาสตร์
-สภาพแวดล้อมที่ครูเตรียม
*งานที่มอบหมาย
1.ทำmid map กลุ่มละ4-5 คน เลือกหัวข้อ1หน่วย เพื่อไปทำแผนการสอน
วันที่ 26 มิถุนายน 2555
สิ่งที่ได้รับคือ
จัดประสบการณ์ทางวิทยาศาสตร์
-อาจารย์ยกตัวอย่างแมวเหมียวให้ฟัง(เด็กเกิดการเรียนรู้)
1.พัฒนาการทางสติปัญญา
2.กระบวนการทางวิทยาศาสตร์
2.1 กระบวนการพื้นฐานเบื้องต้น
-สังเกต(สอดคล้องกับวิธีการเรียนรู้ของเด็ก)
-การวัด (เรื่องปริมาณ)
-การจำแนกประเภท
-การหาความสัมพันธ์มิติกับเวลา
-การสื่อความหมาย
-การคำนวนพยากรณ์
2.2กระบวนการแบบผสม
-ตั้งสมมติฐาน
-กำหนดเชิงปฏิบัติการณ์
-กำหนดและควบคุมตัวแปร
-ทดลอง
-ตีความและสรุป
3.การใช้สื่อ
-เลือกให้เหมาะสม
-เตรียมสื่อ
-ใช้
-ประเมิน
4.วิธีการจัด
1.แบบเป็นทางการ
-รูปแบบการสอนแบบต่างๆเช่น โครงงานวิทยาศาสตร์
-มีจุดมุ่งหมาย
2.แบบไม่เป็นทางการ
-มุมวิทยาศาสตร์
-สภาพแวดล้อมที่ครูเตรียม
*งานที่มอบหมาย
1.ทำmid map กลุ่มละ4-5 คน เลือกหัวข้อ1หน่วย เพื่อไปทำแผนการสอน
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)